วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

แตะต้องอย่าช่างให้ผู้มีชีวิตชั่วลอยนวลเฉียบขาด ผลบอลแมนยู

ต้องอย่า ปลงให้คนชั่วลอยนวลเด็ดขาด!!




ก็ต้องขอประภาษว่า ปลงคนชั่วสิบคนดี ดีกว่าจับคนบริสุทธิ์แทบคนเดียว!!! นั้นเป็นวลีที่นึกขึ้นได้ตราบใดวันก่อนภายหลังดูการถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกระหว่าง พวกปิศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด กับ ทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์

ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามคาดลูกเหล่าของ หลุยส์ ฟาน ฮัล เอาตัวรอดด้วยชัยชนะผลบอล 2-0

แต่ว่าในจังหวะที่ต้องประสงค์พูดถึงคงหนีไม่พ้น การที่ เวส บราวน์ อดีตศิษย์เก่าสำนักโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกผู้ตัดสิน โรเจอร์ อีสต์ ให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม

ซึ่งถ้าพี่น้ำตาลทำฟาวล์หรือไม่ก็กระทำผิดนักๆ ในจังหวะที่ไปเหนี่ยว ศูนย์หน้าตีนบอด อย่าง ราดาเมล ฟัลเกา ก็คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ผู้กระทำผิด ที่แท้แน่ๆ ในจังหวะนั้น ดันเป็นเพื่อนร่วมอดีตสำนักเดียวกันอย่าง จอห์น โอเช ที่เป็นคนไปเหนี่ยวศูนย์หน้าชาวโคลอมเบีย

แต่ว่าที่สำคัญ ในจังหวะที่เหนี่ยวไม่ใช่แค่จับแล้ว ปลดเปลื้อง แต่เป็นการเหนี่ยวแล้วยังดึงรั้งตัว ฟัลเกา ที่กำลังจะพลิกบอลเข้าไปยิงประตูถึง 2 จังหวะ 2 ครั้ง ด้วยกัน

พร้อมกับในขณะที่พี่น้ำตาลผู้โชคร้ายดันไปอยู่แถวนั้นพอดี ครั้งเสียงนกหวีดดังขึ้น ยังไงก็เป็นจุดโทษ แต่กรรมการเจ้ากรรมดันไปให้ใบแดงพี่น้ำตาลแทนที่จะเป็นโอเช

ซึ่งเมื่อพี่น้ำตาลถูกกล่าวหาพยายามจะอธิบายให้ผู้ตัดสินเข้าใจว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดก็ไม่เป็นผล จึงต้องตกอยู่ในสถานะ ถูกจับแพะ แบบไม่มีทางเเลื่องก




โดยที่แสบไปกว่านั้นคือ ผู้กระทำผิดที่แท้แท้อย่างโอเชดันเดินไปให้กำลังใจตบหลังพี่น้ำตาลตอนที่เดินออกจากสนาม เชื่อว่าในใจของ แพะ อย่างพี่น้ำตาลคงอาจจักคิดลึกๆ เผาพริกเผาเกระบือให้เพื่อนร่วมคณะที่ลอยนวล

ซึ่งแทนที่จักช่วยเข้ามายืนยันว่าตัวเองทำผิดกับยอมเดินออกจากสนาม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า โชคร้ายมากๆ ในแง่ความรู้สึก แม้ว่าใครจะถูกไล่ออกกลุ่มก็คงแพ้เหมือนกัน เพราะทั้ง บราวน์ ด้วยกัน โอเช ไม่ได้มีใครเล่นดีกว่ากันซักเท่าไหร่

สมมติว่าจักว่าไปก็คล้ายๆ กับเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเกมระหว่าง เหล่าสิงห์บลู เชลซี กับ เหล่าเบิร์นลี่ย์ ในจังหวะที่ เนมันย่า มาติช ถูกไล่ออกหลังจากวิ่งไปผลัก แอชลี่ย์ บาร์นส์

ในที่จังหวะก่อนหน้านั้น เจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละดันเข้าวิเคราะห์บอลเปิดปุ่มแบบน่าเกลียดใส่มิดฟิลด์ของ กลุ่มเชลซี

พร้อมทั้งที่สำคัญกรรมการเจ้ากรรม อีกแล้ว อย่าง มาร์ติน แอตกินสัน ที่มากประสบการณ์ดันไม่เห็น หรือไม่เปล่า ในจังหวะนั้น จึงไม่ได้เป่าฟาวล์หยุดเกมแต่อย่างใด

ซึ่งแท้ๆ ขอแนะนำใครที่มีเวลาลองหาเทปเหรอคลิปย้อนดูในจังหวะนั้นอีกรอบ จะรู้ว่าเจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละสมควรโดนไล่ออกจากสนามในฐานะผู้กระทำผิดที่แท้ยิ่ง




พร้อมด้วยเหตุผลที่ มาติช เองนั้นก็กำกับอารมณ์ไม่อยู่ แน่ๆๆ จังหวะนั้นถ้าใครคุมอยู่ก็คงต้องชาบู บูชา ก็ต้องรับกรรมไป ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็น เหยื่อ ก่อนแท้ๆ ขณะที่ผู้ร้ายลอยนวล!!!

ซึ่งในเหตุการณ์นั้นต้องยอมรับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกมคู่นี้ ก็เพราะว่าเชลซีที่เหเลื่องลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า ถูกตีเสมอ จบเกมจากสามแต้มที่ควรได้เหฟุ้งเฟื่องแทบแต้มเดียว

พร้อมด้วยนี่แหละคือเกมฟุตบอลที่ Human Error อาจจักเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้แฟนบอลทั้งหลายบางคน

แต่ว่าเพราะด้วยผู้ถูกกระทำอย่าง เวส บราวน์ กับ เนมันย่า มาติช คงขำไม่ออก พร้อมด้วยเจ็บปวดพอสมควรกับโลกของฟุตบอลที่บางทีความยุติธรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่จักหาได้ง่ายๆ ครับ

ที่มา:http://sport.sanook.com/136273/

ติดตามชมอ่าน ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล โปรแกรมบอล โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ตารางบอล ได้ที่ http://event.sanook.com/football

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น