วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

5 กถาต้องรู้ เกม แมนฯยูฯ บิดเชือด เชลซี

 

5 คดีจำต้องรู้ เกม แมนฯยูฯ พลิกเชือด เชลซี

ทำรุ่งเรืองจนได้สำหรับผู้ร่วมทีมของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขากลับตาลปัตรมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาเชี่ยวชาญแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ได้อีกครั้งด้วย

เช่นใดก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงปมเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังกล่าวข้างต้นครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



ถึงแม้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นแบบเอาชนะไปได้ 2-1 ในส่งคืนที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาชนะปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ หรือว่าแม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนหล่นกับดักล้ำหน้าพร้อมด้วยกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างชาญฉลาดพร้อมทั้งความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่บทบังเอิญ โดยเฉพาะแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์แก่สัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง เนื่องมาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาแตะต้องตำหนิว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้แต่กลับทีมที่อ่อนกว่า พร้อมด้วยอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นเท่าแค่การลบสถิติออกเท่านั้น อย่างไรก็ดียังเป็นการแสดงความสามารถให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน และคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



วัยรุ่นผู้เป็นผลผลิตของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันชั้นหนึ่งอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งรุนแรงของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับสถานภาพเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันด้วยกันเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักฟุตบอลเหล่านี้แหละที่จะมาทับตำแหน่งเขา

ยังไงก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นความสามารถทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางกับแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



เมื่อก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร ก่อนหน้านี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สพร้อมด้วยนิวคาสเซิล กลายร่างจากที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ กับหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

ความสำเร็จในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน และแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกระนั้นเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน แถมพกสิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มปะทะคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วพร้อมด้วยยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยตรงตัวเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่พวกเขาก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น